หนานจิง (Nanjing)
นครหนานจิงตั้งอยู่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี มีสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน โดยเป็นนครที่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของราชวงศ์จีนสมัยอาณาจักร ตลอดจนถึงสมัยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชุดต่าง ๆ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ถึง ค.ศ. 1949 และเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่สำคัญ การศึกษา การวิจัย การเมือง เศรษฐกิจ เครือข่ายการขนส่ง และการท่องเที่ยว หนานจิงยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นครนี้ยังเป็นหนึ่งในสิบห้านครย่อยในโครงสร้างการบริหารของเขตปกครองสาธารณรัฐประชาชนจีน
หนานจิงซึ่งเป็นหนึ่งในนครที่สำคัญที่สุดของประเทศมานานกว่าพันปี ในอดีตนั้นหนานจิงจัดเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลวงโบราณที่ยิ่งใหญ่ของจีน เป็นหนึ่งในนครที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพลิดเพลินไปกับความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองแม้จะมีสงครามและภัยพิบัติ หนานจิงทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของง่อก๊ก (229–280) หนึ่งในสามรัฐสำคัญในยุคสามก๊ก เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์จิ้นและแต่ละราชวงศ์ในยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ (ได้แก่ หลิวซ่ง ฉีใต้ เหลียง และเฉิน) ซึ่งปกครองจีนตอนใต้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 317–589; ในสมัยราชวงศ์ถังใต้ (937–75), หนึ่งในสิบอาณาจักร ตลอดจนในสมัยราชวงศ์หมิง เมื่อครั้งแรกที่ประเทศจีนทั้งหมดถูกปกครองจากนครหนานจิงเป็นศูนย์กลาง (1368–1421) หนานจิง ที่แปลว่านครหลวงใต้ เคยเป็นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์ จนได้รับสมญานามว่า เมืองหลวงสิบแผ่นดิน และยังเป็น 1 ใน 6 นครโบราณ อันได้แก่ ปักกิ่ง หนานจิง ซีอาน ลั่วหยาง หางโจว และไคเฟิง
จนสมัยการปฏิวัติซินไฮ่ล้มล้างจักรพรรดิจีน ราชวงศ์ชิงหรือแมนจู หนานจิงจึงเป็นเมืองหลวงของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐจีน เป็นเมืองหลวงครั้งสุดท้ายระหว่างปี ค.ศ. 1927 ถึง ค.ศ. 1949 ภายใต้การบริหารของพรรคก๊กมินตั๋งมีรัฐบาลคือรัฐบาลชาตินิยมแห่งสาธารณรัฐจีน (จีนคณะชาติ) ซึ่งมีผู้นำขณะนั้น คือ จอมทัพเจียงไคเช็ค ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สองที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นครหนานจิงได้รับความโหดร้ายอย่างรุนแรงในความขัดแย้งของสงครามและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือ การสังหารหมู่นานกิง
หลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง หนานจิงยังคงเป็นเมืองหลวงของรัฐบาลคณะชาติต่อไป ก่อนที่รัฐบาลสาธารณรัฐจีนจะลี้ภัยหนีไปเกาะไต้หวันในช่วงสงครามกลางเมืองจีน เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะสงครามกลางเมืองได้สถาปนาเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี ค.ศ. 1949 รัฐบาลใหม่จึงได้ย้ายเมืองหลวงกลับมายังปักกิ่งดังเดิม
บรรพบุรุษชาวหนานจิงจำนวนมากอพยพมาจากปักกิ่งตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง จึงมีส่วนทำให้ภาษาหนานจิงมีสำเนียงคล้ายภาษาจีนกลางที่ฟังเข้าใจได้ทั่วไป จนทำให้ปัจจุบันหนานจิงเป็นหนึ่งในนครที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุดในประเทศจีน
นครนี้มีชื่ออื่นอีกหลายชื่อ และชื่อโบราณบางชื่อปัจจุบันใช้เป็นชื่อเขตต่าง ๆ ในนครนี้ ในบรรดาชื่อเหล่านี้มีชื่อ เจียงหนิง (江寧) อยู่ด้วย อักษร "เจียง" (江) นี้หมายถึง "ฉางเจียง" ("แม่น้ำยาว") เป็นอักษรเดียวกับในพยางค์ต้นของชื่อ "เจียงซู" (江蘇/江苏) ส่วนอักษร "หนิง" (寧) แปลว่า "สันติ" ย่อมาจากคำว่า "นานจิง" เอง ต่อมาเมื่อนครนี้ได้เป็นเมืองหลวงของรัฐ เช่น ในช่วงสาธารณรัฐจีน ก็ใช้อักษร "จิง" (京) ที่แปลว่า "เมืองหลวง" เป็นคำย่อชื่อ "นานจิง" แทน
นครนี้ได้เป็นเมืองหลวงแห่งชาติจีนครั้งแรกสุดเก่าแก่ถึงสมัยราชวงศ์จิ้น แต่ชื่อ หนานจิง ซึ่งหมายถึง เมืองหลวงทางใต้ ("หนาน" แปลว่า ใต้ และ "จิง" แปลว่า เมืองหลวง) ได้รับการกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการสำหรับนครนี้ในช่วงราชวงศ์หมิง ราว 600 หลังราชวงศ์จิ้น
หนานจิงยังเป็นที่รู้จักด้วยชื่อ จินหลิง (金陵; "ภูเขาทอง") ชื่อเก่านี้ใช้มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวแห่งยุครณรัฐ
แผนที่ - หนานจิง (Nanjing)
แผนที่
ประเทศ - จีน
สกุลเงินตรา / Language
ISO | สกุลเงินตรา | สัญลักษณ์ | เลขนัยสำคัญ |
---|---|---|---|
CNY | เหรินหมินปี้ (Renminbi) | Â¥ or å…ƒ | 2 |
ISO | Language |
---|---|
ZH | กลุ่มภาษาจีน (Chinese language) |
ZA | ภาษาจ้วง (Zhuang language) |
UG | ภาษาอุยกูร์ (Uighur language) |